ทำด้วยกัน ถูกประหารเหมือนกัน...
สวัสดีครับผม วันนี้กฎหมายเพื่อความสุข ขอนำเสนอข้อกฎหมายว่าด้วยตัวการร่วม
คดีที่เกิดขึ้นบ่อยๆ วัยรุ่นวัยตามเพื่อย วันดีคืนดี ลูกหลานเราไปเที่ยวกับเพื่อนเฉยๆ ไม่รู้เรื่องรู้ราว
เพื่อนไปฆ่าคนตาย ลูกหลานเราถูกฟ้องข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นด้วย...เพราะตำรวจบอกว่า ไปด้วยกัน ทำผิดด้วยกัน ถูกฟ้องข้อหาเดียวกัน.... พลักภาระให้ผู้ต้องหา จำเลยไปพิสูจน์เอาเองในชั้นศาล...
ดังนั้นเมื่อถูกฟ้องในข้อหาร่วมก้ันฆ่าผู้อื่นมา จะให้รับสารภาพหรือปฎิเสธดีครับผม..
กฎหมายเพื่อความสุข แนะนำให้รับเท่าที่ทำ เท่าที่รู้...ถ้าไม่รู้ เพื่อนทำไปเอง ก็ปฏิเสธครับ...
ที่นี้มาดูกฎหมาย ดูแนวฎีกา ตัวการร่วม เพื่อใช้ในการตัดสินใจสู้คดีกันครับ...
หลักกฎหมายตัวการร่วม มาตรา 83
- เป็นการกระทำความผิดโดยเจตนา ประมาทไม่มีตัวการร่วม ( ไม่มีข้อหาขับรถโดยประมาทร่วม มีแต่ต่างคนต่างประมาท )
- เป็นการกระทำระหว่างบุคคล 2 คน ขึ้นไป
- มีการกระทำร่วมกันในขณะกระทำความผิด
- มีเจตนาร่วมกันในขณะกระทำความผิด
ตัวการร่วม ต้องมีการกระทำร่วมกันในขณะกระทำความผิด
ตัวการร่วมต้องไปด้วยกัน ทำด้วยกัน อยู่ด้วยกัน พร้อมช่วยเหลือกัน หรือดูต้นทางให้
แบ่งหน้าที่กันทำ หนีไปด้วยกัน...อันเป็นการสมคบคิดกันกระทำความผิด...
ตัวการร่วมกระทำความผิด ต้องมีเจตนาร่วมกันในขณะกระทำความผิด
หลักรับผิดตามเจตนา...
ตัวการร่วมต้องมีเจตนาร่วมกัน เช่นเจตนาฆ่าเหมือนกัน คนหนึ่งเอาไม้ตีหัว อีกคนเอาปืนยิงเป็นต้น
ไปทำร้ายร่างกาย อีกคนเจตนาฆ่าด้วยกัน แต่ถ้าตัดสินใจทำเองโดยลำพังทันที รับผิดแต่คนทำในข้อหาฆ่าคนตาย
เจตนาฆ่าหรือเจตนาทำร้ายร่างกาย ให้ดูที่
1.อาวุธที่ใช้...ปืนเป็นอาวุธร้ายแรง ถือว่ามีเจตนาฆ่าเสมอ
2. อวัยวะที่ถูกทำร้าย...ศรีษะ หน้าอก ช่องท้อง แขน ขา เป็นต้น
ตั้งแต่ลำตัวขึ้นไป ถือว่าเป็นอวัยวะสำคัญ เช่นใช้มีดฟันแขน ขา
เป็นเจตนาทำร้ายร่างกาย ฟันศรีษะเป็นเจตนาฆ่า เป็นต้น
ใช้ปืนยิงที่ขา ก็สามารถต่อสู้ว่ามีเพียงเจตนาทำร้ายร่างกาย ไม่มีเจตนาฆ่าแต่อย่างใดได้
สรุปง่ายๆ กันนะคับ ผิดหรือไม่ผิด เป็นตัวการร่วมหรือไม่
ไปด้วยกัน แล้วคนหนึ่งไปฆ่าเขาตาย ฆ่าแล้วกลับด้วยกัน
ถ้าเราไม่รู้เรื่อง ไม่ได้ตกลงกันที่จะไปฆ่าเขา เพื่อนไปฆ่าเอง เราไม่ผิด ไม่เป็นตัวการร่วม
ตกลงกันไปทำร้ายร่างกายเขา เพื่อนไปฆ่า เราผิดแค่ข้อหาทำร้ายร่างกาย
เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย โทษเบากว่า...
ตกลงกันไปพูดคุยปรับความเข้าใจเฉย ๆ เพื่อนพกปืนไปด้วย ไปฆ่าเขา เราไม่ผิดเพราะไม่รู้เรื่อง
ไม่รู้ว่าเพื่อนพกปืนไปด้วย ไม่ได้ตกลงกันไปฆ่าเขาสักหน่อย เพื่อตัดสินใจยิงเองคนเดียว...
แต่สุดท้าย คดีแบบนี้ ส่วนมากตำรวจและอัยการก็จะส่งฟ้อง
ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นมาก่อนเสมอครับ...
ผลักภาระหน้าที่ให้จำเลยต้องมาสู้คดีเอาเอง ว่าไม่รู้เรื่องด้วย....
และสุดท้ายเจอข้อหาหนัก วงเงินประกันสูง ไม่มีเงินประกันตัวหรือ
มีเงินแต่เป็นข่าวดังอาจไม่ได้ประกันตัวด้วยเช่นกัน...
แล้วพบกันใหม่ที่บทความต่อไปครับผม
กฎหมายเพื่อความสุข เพื่อประชาชน
ทนายธีรวัฒน์ นามวิชา
ไปทำร้ายร่างกาย อีกคนเจตนาฆ่าด้วยกัน แต่ถ้าตัดสินใจทำเองโดยลำพังทันที รับผิดแต่คนทำในข้อหาฆ่าคนตาย
เจตนาฆ่าหรือเจตนาทำร้ายร่างกาย ให้ดูที่
1.อาวุธที่ใช้...ปืนเป็นอาวุธร้ายแรง ถือว่ามีเจตนาฆ่าเสมอ
2. อวัยวะที่ถูกทำร้าย...ศรีษะ หน้าอก ช่องท้อง แขน ขา เป็นต้น
ตั้งแต่ลำตัวขึ้นไป ถือว่าเป็นอวัยวะสำคัญ เช่นใช้มีดฟันแขน ขา
เป็นเจตนาทำร้ายร่างกาย ฟันศรีษะเป็นเจตนาฆ่า เป็นต้น
ใช้ปืนยิงที่ขา ก็สามารถต่อสู้ว่ามีเพียงเจตนาทำร้ายร่างกาย ไม่มีเจตนาฆ่าแต่อย่างใดได้
สรุปง่ายๆ กันนะคับ ผิดหรือไม่ผิด เป็นตัวการร่วมหรือไม่
ไปด้วยกัน แล้วคนหนึ่งไปฆ่าเขาตาย ฆ่าแล้วกลับด้วยกัน
ถ้าเราไม่รู้เรื่อง ไม่ได้ตกลงกันที่จะไปฆ่าเขา เพื่อนไปฆ่าเอง เราไม่ผิด ไม่เป็นตัวการร่วม
ตกลงกันไปทำร้ายร่างกายเขา เพื่อนไปฆ่า เราผิดแค่ข้อหาทำร้ายร่างกาย
เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย โทษเบากว่า...
ตกลงกันไปพูดคุยปรับความเข้าใจเฉย ๆ เพื่อนพกปืนไปด้วย ไปฆ่าเขา เราไม่ผิดเพราะไม่รู้เรื่อง
ไม่รู้ว่าเพื่อนพกปืนไปด้วย ไม่ได้ตกลงกันไปฆ่าเขาสักหน่อย เพื่อตัดสินใจยิงเองคนเดียว...
แต่สุดท้าย คดีแบบนี้ ส่วนมากตำรวจและอัยการก็จะส่งฟ้อง
ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นมาก่อนเสมอครับ...
ผลักภาระหน้าที่ให้จำเลยต้องมาสู้คดีเอาเอง ว่าไม่รู้เรื่องด้วย....
และสุดท้ายเจอข้อหาหนัก วงเงินประกันสูง ไม่มีเงินประกันตัวหรือ
มีเงินแต่เป็นข่าวดังอาจไม่ได้ประกันตัวด้วยเช่นกัน...
แล้วพบกันใหม่ที่บทความต่อไปครับผม
กฎหมายเพื่อความสุข เพื่อประชาชน
ทนายธีรวัฒน์ นามวิชา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น