วันจันทร์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

รับจ้างเปิดบัญชี ความผิดของการรับจ้างเปิดบัญชีธนาคาร

โดนหลอกให้เปิดบัญชี รับจ้างเปิดบัญชีธนาคาร

ความผิด โทษของการรับจ้างเปิดบัญชีธนาคาร จำคุก 1- 10 ปี



สวัสดีครับ วันนี้ไปเปิดบัญชีธนาคาร เห็นป้ายเตือนรับจ้างเปิดบัญชี มีความผิดตามกฎหมาย
ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติมาติดไว้ ก็เลยขอเขียนบทความกฎหมายเพื่อความสุข เนรมิตชีวิตที่ดีกว่า
ว่าด้วยการรับจ้างเปิดบัญชีธนาคาร หรือโดนหลอกให้ไปเปิดบัญชีธนาคารให้ โดยให้เงินเป็นค่าตอบเเทนเป็นเงิน 2,000- 3,000 บาท หลังจากนั้นวันดีคืนดี ก็มีเจ้าพนักงานตำรวจมาตามหาที่บ้าน แล้วแจ้งว่ากระทำความผิดต่าง ๆ ทั้งทีี่ไม่เคยได้กดเงินออกจากบัญชีมาใช้แม้แต่บาทเดียว

โทษ ความผิดของการรับจ้างเปิดบัญชี

ความจริงแล้ว คนหนึ่งคนสามารถมีบัญชีธนาคารได้หลายบัญชี แล้วทำไมเข้าต้องมาจ้างให้เราเปิดบัญชีธนาคารให้ หรือมาหลอกให้เราเปิดบัญชีธนาคารให้ เพราะคนทั่วไปคงไม่อยากให้ใครมายุ่งเกี่ยว รับรู้เกี่ยวกับเรื่องเงินๆ ทองๆ ของตน

ดัง่นั้นการที่เพื่อน คนรู้จัก มาให้เราเปิดบัญชีธนาคารให้และมอบบัตรเอทีเอ็ม ให้กับเพื่อนไป
หรือโดนหลอก รับจ้างเปิดบัญชีให้คนไม่รู้จัก ย่อมเป็นไปได้ว่าบุคคลเหล่านั้น ต้องนำไปใช้ในการกระทำความผิด เพราะไม่ต้องการให้มีหลักฐานโยงมาถึงคนร้ายได้ หรือทำให้ตรวจสอบเส้นทางการเงินได้อยากขึ้น เพราะจะใช้บัญชีทีี่รับจ้างเปิด เป็นบัญชีต้นทางในการรับโอนเงิน แล้วหลังจากนั้นก็ทำการโอนต่อไปให้บัญชีอื่นต่ออีก...

ซึ่งก็มีความเป็นไปได้ ว่าคนที่มาจ้างเปิดบัญชี จะเอาบัญชีดังกล่าวไปใช้ในการซื้อขายยาเสพติด ค่าประเวณี ค่ามนุษย์ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่หลอกลวงให้ประชาชนโดนเงินให้ หรือไปรับเงินฉ้อโกง หรือเงินยักยอก จากผู้เสียหายก็ได้ และบางข้อหาความผิด ก็เข้าข้อหาฟอกเงินด้วยครับ...

ความผิดของการรับจ้างเปิดบัญชีธนาคาร จึงมีได้หลายข้อหาครับ เช่น


  1. ความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงผู้อื่น
  2. ความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ( แก๊งคอลเซ็นเตอร์ )
  3. ความผิดฐานร่วมกันยักยอกทรัพย์ผู้อื่น
  4. ความผิดฐานร่วมกันค่ามนุษย์ ค่าประเวณี
  5. ความผิดฐานร่วมกันค้ายาเสพติด
  6. ความผิดฐานร่วมกันฟอกเงิน
โทษของการรับจ้างเปิดบัญชีธนาคาร 
เมื่อมีการกระทำความผิด เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบบัญชีธนาคารที่รับจ้างเปิด ก็ทำให้รู้ว่าเป็นของใคร
ก็จะมีการเชิญคนรับจ้างเปิดบัญชี มาสอบปากคำในฐานะพยาน หรือในฐานะผู้ต้องหา

ถ้าเจ้าพนักงานตำรวจแจ้งว่าเรามีส่วนกระทำความผิดด้วย 
ก็ต้องโทษจำคุก ต้องหาเงินมาประกันตัวในชั้นสอบสวนต่อไป

แต่ถ้าโชคดี พนักงานสอบสวนเห็นว่าเราไม่รู้เห็นด้วย ไม่แจ้งข้อหาคนรับจ้างเปิดบัญชีธนาคาร
ส่งสำนวนการสอบสวนไปให้พนักงานอัยการแล้ว อัยการไม่เห็นด้วย มีคำสั่งให้พนักงานสอบสวนแจ้ง่ข้อหาฐานร่วมกันกระทำความผิดด้วย พนักงานสอบสวนก็ต้องแจ้งข้อหากับคนรับจ้างเปิดบัญชีครับ

เมื่อพนักงานสอบสวนเสร็จ อัยการส่งฟ้อง ศาลมีคำสั่งประทับรับฟ้องสั่งขังคนรับจ้างเปิดบัญชี ไว้ก่อนจนกว่าจะมีประกัน คนรับจ้างเปิดบัญชีก็ต้องเข้าไปในห้องขังศาล เพื่อรอการประกันตัวต่อไปครับ

รับจ้างเปิดบัญชีธนาคารแล้วจะติดคุกหรือเปล่า ?

ถ้าถามทนาย ทนายก็บอกว่าคดีรับจ้างเปิดบัญชี โดนหลอกเปิดบัญชี ก็มีทั้งที่สู้คดีได้ และสู้ไม่ได้ 
อยู่ที่ข้อเท็จจริง ข้อหาฐานความผิดทีี่โดนด้วยครับ ว่าโดนข้อหาฐานความผิดอะไร ?

่สุดท้ายเเม้จะสู้คดีชนะ แต่คนเปิดรับจ้างเปิดบัญชีก็ต้องติดคุก ต้องประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวนและในชั้นพิจารณาคดี ต้องเสียเงิน เสียเวลาครับ...

เพราะระบบยุติธรรมไทย เป็นระบบกล่าวหา กล่าวหาว่าคุณกระทำความผิด 
ให้ไปพิสูจน์ความบริสุทธิ์เองในชั้นศาล...

ทางแก้เมื่อโดนหลอกให้ไปรับจ้างเปิดบัญชี

ให้ไปแจ้งความเจ้าพนักงานตำรวจไว้เป็นหลักฐาน ให้เจ้าพนักงานตำรวจตรวจสอบ และไปแจ้งอายัดบัตรเอทีเอ็ม ไปติดต่อธนาคารเพื่อปิดบัญชีธนาคารที่รับจ้างเปิดต่อไปคับ...

แล้วพบกันใหม่ที่บทความต่อไปครับ..

อย่าลืม กดไลค์ กดแชร์ แบ่งปันเรื่องราวดีดี ให้เพื่อน ญาติพี่น้องทราบนะครับ
จะได้ไม่ตกเป็นเครืองมือของคนไม่ดี ไม่ต้องมาขึ้นโรงขึ้นศาลครับ..

กฎหมายเพื่อความสุข


ทนายธีรวัฒน์  นามวิชา

วันอังคารที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

โดนยึดทรัพย์ โดนยึดบ้าน ยึดที่ดิน โดนบังคับคดี ต้องทำอย่างไร

เมื่อไม่จ่ายหนี้ตามคำพิพากษา โดนเจ้าหนี้บังคับคดี

ไม่ว่าจะเป็นหนี้ กยศ.หนี้บัตรเครดิต เซ่าชิื้อรถ หรืออื่นๆ 
ทำให้ต้องโดนยึดทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็นบ้าน ที่ดิน จะทำยังไง


สวัสดีครับ กฎหมายเพื่อความสุข เนรมิตชีวิตที่ดีกว่า วันนี้มาพบกันอีกครั้ง 
กับกฎหมายเกี่ยวกับการบังคับคดี กล่าวคือ เมื่อศาลมีคำพิพากษาแล้ว เจ้าหนี้ได้ส่งคำบังคับคดีให้ปกิบัติตามคำพิพากษาแล้ว ลูกหนี้ตามคำพิพา่กษาก็ยังไม่จ่ายหนี้ให้กับเจ้าหนี้ตามคำพิพากษา

เจ้าหนี้ก็จะขอหมายตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดี เพื่อดำเนินการบังคับคดีนำเอาเงินมาชำระหนี้ให้กับเจ้าหนี้ต่อไป

การบังคับคดี  ส่วนมากก็จะเป็นการยึดทรัพย์ เช่น ที่ดิน บ้าน หรือทรัพย์สินอื่นๆ ของลูกหนี้มาชำระหนี้ หรือไม่ก็จะเป็นการอายัดเงินเดือน หักเงินเดือนมาจ่ายหนี้แทน

เมื่อโดนบังคับคดี โดนยึดทรัพย์ ยึดบ้าน ยึดที่ดิน จะทำยังไงดี  

1.ลองติดต่อเจ้าหนี้ เพื่อไกล่เกลี่ย ขอผ่อนชำระ ขอส่วนลดเพื่อปิดหนี้ได้ เมื่อจ่ายหนี้ครบ เจ้าหนี้ก็จะถอนการยึดทรัพย์ให้คับ

2. ถ้าคุณกับเจ้าหนี้ไม่ได้ หรือเจ้าหนี้ไม่ยอมคุยด้วย เพราะตอนนี้ยึดทรัพย์ไว้แล้ว มีอำนาจต่อรองมากกว่า ลูกหนี้ก็ยังสามารถเลือกได้นะครับว่าจะทำยังไงต่อไป ดังต่อไปนี้ คือ

๑ ).หาเงินมาจ่ายหนี้ตามคำพิพากษาไป เหมาะสำหรับ คนที่มีหนี้น้อย แต่ราคาบ้าน ที่ดินที่โดนยึดมาราคาสูง เช่น เป็นหนี้ กยศ. หนี้บัตรเครดิต หรือหนี้อื่นๆ อยู่ 50,000 บาท แต่โดนยึดบ้าน ยึดที่ดิน ราคา 5,000,000 บาท ก็ควรหาเงินมาชำระหนี้ตามคำพิพากษาคับ เพราะเมื่อจ่ายหนี้ครบ บวกค่าธรรมเนียมต่างๆ เจ้าพนักงานบังคับคดีก็จะถอนการยึดทรัพย์ให้ครับ.

๒ ) ในกรณีที่หนี้ตามคำพิพากษาสูง ทรัพย์ที่โดนยึดมีราคาไม่แพงมากนัก ก็ใช้วิธียกป้ายสู้ราคาได้ครับ ส่วนมากก็จะให้ญาติพี่น้องไปซื้อแทน...

๓ )   ถ้าเงินจ่ายหนี้ก็ไม่มี หรือเงินซื้อทรัพย์ที่โดนยึดคืนก็ไม่มี ก็ต้องไปดูแลการขายทอดตลาดนะครับ
เพราะกฎหมายให้สิทธิลูกหนี้ หรือเจ้าของทรัพย์สามารถคัดค้านการขายได้ ๑ ครั้ง เพื่ออัพราคาทรัพย์ที่ขายทอดตลาดได้ โดนอาจหาคนอื่นมาซื้อ หรือในครั้งหน้าอาจมีคนให้ราคามากกว่าครั้งแรกก็ได้..

เพราะหากบังคับคดี ยึดบ้าน ยึดที่ดิน หรือยึดทรัพย์สินอื่นๆ ออกขายทอดตลาดแล้วได้เงินไม่พอชำระหนี้ เจ้าหนี้ก็สามารถยึดทรัพย์สินอื่นๆ ของลูกหนี้มาขายได้จนกว่าจะเพียงพอกับหนี้หรือไม่มีทรัพย์สินอื่นๆของลูกหนี้ให้ยึดได้อีกต่อไป ภายใน ๑๐ ปี นับแต่ศาลมีคำพิพากษา

๔) สุดท้ายถ้าทำอะไรไม่ได้ ก็เข้าวัด ทำใจให้สงบครับ เพราะชีวิตยังต้องเดินต่อไป...

แต่ก็มีทรัพย์สินบ้างอย่างที่ยึดไม่ได้ และเงินเดือนถ้าต่ำกว่าเดือนละ 20,000 บาท ก็ยึดไม่ได้นะครับ

ตามกฎหมายใหม่ในการบังคับคดี ตามลิงค์นี้ครับ


แล้วพบกันใหม่ที่บทความต่อไปครับ

กฎหมายเพื่อความสุข เนรมิตชีวิตที่ดีกว่า

         ทนายธีรวัฒน์  นามวิชา



ขายไม้พยูงถูกกฎหมาย ราคาตันละ 1,000,000 บาท ไม้มีราคา แต่รัฐบาลไม่ส่งเสริม

ขายด่วน ไม้พะยูงถูกกฎหมาย 

ราคาไม้พะยูงวันนี้ ราคากิโลกรัมละ 1,000 บาท



กฎหมายเพื่อความสุข เนรมิตชีวิตทีี่ดีกว่า กับคำถามวันนี้

ไม้พะยูง ราคา กิโลกรัมละ 800 - 1,000 บาท ไม้พยูงตันละ 1,000,000  บาท

ข้าวหอมมะลิที่ดีที่สุดในโลก กิโลกรัมละ 10 บาท

ต้นยูคาลิปตัส กิโลละ 1 บาท ตันละ 1,000 บาท


คำถามคือ ทำไมรัฐบาลถึงส่งเสริมให้แต่ประชาชนปลูกต้นยูคาลิปตัส กิโลละ 1 บาท 
เพื่อส่งให้นายทุนทำกระดาษ

แต่ทำไม ไม่ส่งเสริมให้ประชาชน ปลูกต้นพะยูง ที่มีราคาสูงถึงตันละ 1,000,000 บาท ???

ที่จะทำให้เกษตรกร อยู่ดีกินดี สามารถมีบำเหน็จ บำนาญได้ เพียงแค่เปลี่ยนคันนาจากต้นยูคาลิปตัส 
มาเป็นต้นพยูงเท่านั้นเอง

แต่ทำไมรัฐบาลถึงทำไม่ได้ ทั้งที่รัฐบาลมีเครื่องไม้ เครื่องมือมากมาย ที่สามารถส่งเสริมขายฝันให้ประชาชนเกิดแรงจูงใจที่จะปลูกต้นพยูงได้...

แต่รัฐบาลกับออกกฎหมายมา เพื่อกีดกัน ไม่ให้ประชาชนปลูกต้นพยุงกัน
จากเดิมที่ ต้นพะยูงที่ขึ้นอยู่ในที่ดินมีโฉนดเป็นสิ่งถูกกฎหมาย วันต่อมากลับกลายเป็นสิ่งผิดกฎหมาย

ชาวบ้านจึงมีทางเลือกว่าจะปล่อยให้ต้นพะยูงที่ปลูกไว้ เจริญเติบโตต่อไป หรือตัดทำลายทิ้งตั้งแต่ต้นยังเล็กๆ ซึ่งในความคิดชาวบ้านก็คงต้องตัดทิ้งอยู่แล้ว เพราะคิดว่าปลูกแล้ว โตแล้ว ตัดไม่ได้ ขนาดล้มใส่บ้านก็ต้องย้ายที่อยู่ เพราะตัดต้นไม้พะยูงออกจากบ้านไม่ได้

ดังนั้น เมื่อกฎหมายป่าไม้ ออกมายังนี้ อย่าแปลกใจ เมื่อท่านๆ ขับรถผ่านทุุ่งนา จึงเห็นต้นยูคาลิปตัสยูบนคันนา...ส่วนต้นไม้ราคาแพง ต้นสัก ต้นพยูง ยางนา นั้นหาดูยากที่จะเห็นชาวบ้านปลูกไว้

เพราะสำหรับชาวบ้านทั่วไปแล้ว ต้นยูคาลิปตัส มีค่าดั่งทองคำ ส่วนต้นสัก ยางนา พยุง คือวัชพืช กาฝาก ที่ต้องกำจัดทิ้งไป... มีไว้แล้วนำมาซึ่งคุกตะราง...

แต่ทุกวันนี้ ก็เห็นมีปราชญ์ชาวบ้านออกมาส่งเสริม ให้ปลูกกันนะครับ  กรมป่าไม้ก็มีการแจกพันธ์ไม้ฟรี ทั้งต้นสัก ยางนา ไม้พยุง หรือไม้อื่นๆ แต่เมื่อชาวบ้านยังไม่เข้าใจก็ไม่ปลูกคับ

ในความเห็นของชาวบ้าน ที่ทนายได้รับฟังมาคือ ปลูกต้นพยุง สัก ยางนา แล้วขออนุญาตตัดลำบาก ช้า

แต่สำหรับผมแล้ว ก็ไม่ต้องคิดมากครับ ปลูกต้นพยุงไปก่อนเลย ต้นนี้ปลูกมาได้ประมาณ 4 ปีแล้ว


โดยต้นพยูงต้นนี้ ผมปลูกไว้บนที่ดินที่มีเอกสารสิทธิเป็นโฉนดที่ดิน ตอนปลูกเป็นต้นไม้ถูกกฎหมาย แต่ต่อมารัฐบาลแก้กฎหมายใหม่ ให้ต้นพยูงทั้งหมดในประเทศไทยเป็นไม้สงวน กลายเป็นมีไม้ต้องห้ามไว้ในครอบครองไปชะงันครับ...

แต่ด้วยความเข้าใจกฎหมายป่าไม้ กฎหมายสวนป่า ว่าสามารถขออนุญาตตัดต้นพยููงได้ ดังนั้นผมจึงดูแลให้ต้นพยูงที่ปลูกไว้ เจริญเดิบโตต่อไปครับ

คิดว่าอีก 20  ปีข้างหน้า ก็มีเงินล้านไว้ใช้ตอนเกษียณแล้วคับ เพราะปลูกไว้ประมาณ 20 กว่าต้น

ส่วนการขออนุญาตตัด ก็ไม่ต้องคิดมากครับ ไม้พยูงดีมีราคา ของดีมีจำนวนจำกัด เป็นที่ต้องการของตลาดประเทศจีน  ขั้นตอนการขออนุญาตปล่อยให้คนซื้อเป็นคนดำเนินการเอง
นั่งอยู่บ้านดูทีวี รอรับเงินครับ..ทำง่ายๆๆ ไม่ต้องคิดมาก...

อีกอย่างต้นพยุง จัดเป็นพืชตระกูลถั่ว ปลูกแล้วดินดีครับ ทำให้ข้าวข้างคันนาสวยไปด้วยคับ...

กฎหมายเพื่อความสุข กฎหมายต้นพะยูง ปลูกได้ ตัดได้ครับ

ปลูกต้นพยูงแล้ว ชีวิตดีขึ้น....


สนใจซื้อต้นพยุงที่ทนายปลูกไว้ ติดต่อสั่งจอง ทำ MOU ได้นะครับ

ถ้าซื้อวันนี้  20 ต้น ราคาพยุงต้นละ 200,000 บาท รวม 4,000,000 บาท

ลดพิเศษเหลือเพียง  2,000,000 บาท แถมที่ดินมีโฉนด 200 ตารางวาให้ฟรีอีก 1 แปลง

รับประกันซื้อแล้วไม่ขาดทุน มีแต่กำไร เพราะนับวันต้นไม้พยูงยิ่งโต เนื้อไม้ดีขึ้น มากขึ้น ราคายิ่งเพิ่มขึ้น

สนใจติดต่อ ทนายธีรวัฒน์  นามวิชา 095-607-8585

รับนายหน้านะครับ ให้ค่าแนะนำ 10 %""


สุดท้ายไม่มีอะไรมากครับ ทีี่เขียนมา ก็คืออยากชวนเพื่อนๆ มาปลูกต้นพยูงครับ

"ปลูกต้นพยุง มีไม้พะยูงไว้ในครอบครองแล้วชีวิตดีขึ้นครับ"

ลงทุน 5 บาท 20 ปี ผ่านไป มีเงินเก็บ 1,000,000 บาท...น่าลุ้นครับ

กฎหมายเพื่อความสุข เนรมิตชีวิตทีดีกว่า

           ทนายธีรวัฒน์  นามวิชา

วันอาทิตย์ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

วิธีรับมือ วิธีปฏิเสธคนขายประกันทางโทรศัพท์

เบื่อคนขายประกันทางโทรศัพท์ โทรมาตื้อ 
จะปฏิเสธคนขายประกันทางโทรศัพท์ได้อย่างไร ?


สวัสดีครับ ผมทนายธีรวัฒน์  นามวิชา กับกฎหมายเพื่อความสุข เนรมิตชีวิตที่ดีกว่า วันนี้ว่าด้วยความเบื่อ ความทุกข์ ่ของคนที่โดนตื้อ ขายประกัน โทรมาจนไม่อยากรับโทรศัพท์จะทำยังไงดี

กฎหมายเพื่อความสุข เนรมิตชีวิตที่ดีกว่า มีทางออกเเบบถูกต้องตามกฎหมาย แบบที่คนขายประกันทางโทรศัพท์ได้ยินแล้ว ไม่อยากโทรมาหาท่านอีกเลย....

เพราะตามกฎหมาย มีการควบคุม ดูแลการขายประกันทางโทรศัพท์ เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวน สร้างความรำคาญแก่ผู้บริโภค ประชาชนทั่วไป ตาม " ประกาศคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการเสนอขายกรมธรรม์ประกันภัย ผ่านทางโทรศัพท์ พ.ศ.2552 "

ซึ่งมีโทรสูงสุด ถึง เพิกถอนใบอนุญาตเป็นตัวแทน หรือใบอนุญาตเป็นนายหน้าประกันชีวิต

ซึ่งคงไม่มีตัวแทน หรือนายหน้าคนไหน อยากโดนเพิกถอนใบอนุญาต เพราะหมายถึงการไม่สามารถทำงานประกันชีวิต ประกันภัยได้อีกต่อไป

วันนี้ทนาย ขอนำเสนอวิธีที่ได้ผลตามกฎหมาย และเคยทำมาเเล้วแบบได้ผลไม่มีการโทรกลับมาขายประกันทางโทรศัพท์อีกเลย

วิธีปฏิเสธการขายประกันทางโทรศัพท์

1.ให้ปฏิเสธไปเลยว่า ไม่ต้องการซื้อกรมธรรม์ประกันชีวิตแล้ว ทำให้คนขายประกันทางโทรศัพท์ จะไม่โทรมาติดต่ออีกเป็นระยะเวลา 6 เดือน  ตามระเบียบ คปภ.ถ้าโทรมาก่อนครบกำหนด 6 เดือน เท่ากับเป็นการไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ตามกฎระเบียบ ทำให้อาจถูกเพิกถอนใบอนุญาตได้

2. ให้ถามกลับไปว่า " คุณ คนขายไปเอาข้อมูล เบอร์โทร ของเรามาจากไหน ? " ซึ่งตามกฎหมาย กฏระเบียบการขายประกันทางโทรศัพท์ จะต้องตอบคำถามว่าได้ข้อมูลมาอย่างไรก่อน จึงจะวางสายได้ ถ้าวางสายก่อนตอบ ก็เป็นการผิดกฎหมาย ผิดระเบียบของ คปภ. ซึงมีโทษถึงเพิกถอนใบอนุญาตขายประกันได้

เพราะข้อมูลลูกค้าที่ได้มา ส่วนมากก็จะเป็นการไปซื้อข้อมูลมา ซึ่งคนที่โทรมาขายประกันทางโทรศัพท์ก็ไม่อยากบอกว่าได้ข้อมูลมาจากไหน ? เพราะจะทำให้ตนเอง หัวหน้า บริษัท หรือคนขายข้อมูลเดือดร้อนได้  เจอมัดนี้เข้าไปคนโทรมาขายประกันทางโทรศัพท์ ก็จะรียให้คำมั่นสัญญา ว่าจะไม่โทรมารบกวนอีกเลย...

3.ให้ตอบกลับไปว่า " เราเป็นตัวแทนประกันชีวิตอยู่แล้ว หรือญาติเพื่อนเราเป็นตัวแทนอยู่แล้ว" ถ้าบอกว่าเราเป็นตัวแทนหรือนายหน้าอยู่แล้ว คนที่โทรมาขายประกันทางโทรศัพท์ก็คงไม่ตื้อเราต่อไปอีก แต่ถ้าบอกว่าญาติหรือเพืี่อนเราขายประกันอยู่ เจ้าหน้าที่ที่โทรมาขาย อาจมีข้อโต้แย้งว่า เเบบประกันที่โทรมาขาย มีเฉพาะฝ่ายขายทางโทรศัพท์เท่านั้น ? ซื้อประกันทางโทรศัพท์ได้รับประโยชน์มากกว่า ? ก้ได้

4.บล็อคเบอร์ขายประกันไปเลย  วิธีนี้ก็ได้ผลครับ โทรมาแล้วไม่ติด ปรากฎว่าไม่โทรมาอีกเลย เพราะส่วนมากเบอร์ทีี่โทรมาขายประกัน ต้องเป็นเบอร์บริษัท เพราะต้องบันทึกเสียงสนทนาไว้ ตามระเบียบ คปภ. ส่วนมากจึงไม่มีการใช้เบอร์ส่วนตัวของพนักงานขายประกันทางโทรศัพท์โทรมา...

และในปัจจุบัน ก็มีเเอ็พพิเคชั่น ที่สามารถบล็อคเบอร์โทรศัพท์ได้ ถ้าไม่อยากคุย ก็ใช้วิธีนี้ได้นะครับ

5.ตกลงทำประกันเพิ่อตัดความรำคาญไปก่อน แล้วมายกเลิกกรมธรรม์ได้ภายใน 30 วัน นับแต่วันได้ผู้ซื้อประกันได้รับกรมธรรม์ประกันภัยจากบริษัทประกัน โดยกฎหมายให้สิทธิบอกเลิกได้โดยไม่มีข้อยกเว้น และบริษัทประกันภัย ต้องคืนเบี้ยประกันภัยเต็มจำนวนโดยไม่หักค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่บริษัทได้รับแจ้งการใช้สิทธิยกเลิกกรมธรรม์ประกันภัย

ส่วนเพื่อนๆ มีวิธีไหน ที่ใช้แล้วได้ผล ก็แนะนำได้นะครับ...

การขายประกันทางโทรศัพท์ เป็นสิ่งที่ดี เพราะสามารถอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้บริโภคได้

แต่การที่โทรมาขายประกันจนเป็นการรบกวน หรือสร้างความรำคาญใจแก่ผู้บริโภค เป็นสิ่งที่ไม่สมควรกระทำเป็นอย่างยิ่ง กฎหมายจึงต้องออกกฎระเบียบเพื่อให้คนขายประกันทางโทรศัพท์ปฏิบัติตามครับ...

กฎหมายเพื่อความสุข เนรมิตชีวิตที่ดีกว่า

ทนายธีรวัฒน์  นามวิชา...

วันจันทร์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

กฎหมายใหม่ กฎหมายบังคับคดีใหม่ เงินเดือนต่ำกว่า 20,000 บาท ห้ามยึด ห้ามอายัติเงินเดือน

กฎหมายใหม่ กฎหมายบังคับคดีใหม่ พ.ศ.2560

กฎหมายบังคับคดีใหม่ แก้ไขใหม่เพื่อให้ชีวิตลูกหนี้อยู่ได้

เงินเดือน รายได้ ลูกหนี้ต่ำกว่า 20,000 บาท ห้ามยึด ห้ามอายัติ



สวัสดีครับ ผมทนายธีรวัฒน์  นามวิชา ทนายความศรีสะเกษ 
กับกฎหมายเพื่อความสุข เนรมิตชีวิตที่ดีกว่า วันนี้เป็นของลูกหนี้ ของมนุษย์เงินเดือนกันครับ

หลักเป็นหนี้ต้องใช้ แต่ลูกหนี้ ก็ต้องใช้ชีวิตอยู่ได้โดยสงบสุข ตามสมควร โดยคำนึงถึงฐานะทางครอบครัวของลูกหนี้ ร่วมทั้งจำนวนบุพการี และจำนวนลูกหลาน ที่อยู่ในความดูแลของลูกหนี้ด้วย

เมื่อเป็นหนี้แล้วไม่ใช้คืน เจ้าหนี้นำคดีมาฟ้องต่อศาล จนศาลมีคำพิพากษาให้ใช้หนี้แล้ว ไม่ยอมชดใช้ให้ตามคำพิพากษาของศาล เจ้าหนี้ก็ต้องมีการบังคับคดี ยึดทรัพย์ อายัดเงินของลูกหนี้ มาชำระหนี้ตามคำพิพากษาต่อไป...

แต่มีีทรัพย์สินบางชนิดของลูกหนี้ที่ไม่สามารถยึดได้ ไม่อาจถูกบังคับคดีได้  เดิมบัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๘๕ แก้ไขใหม่เป็นกฎหมายบังคับคดีใหม่ในมาตรา ๓๐๑ ทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษาต่อไปนี้ ย่อมไม่อยู่ในกความรับผิดแห่งการบังคับคดี

(๑) เครื่องนุ่งห่มหลับนอน เครื่องใช้ในครัวเรื่อน หรือเครื่องใช้สอยสวนตัว โดยประมาณรวมกันราคาไม่เกินประเภทละ 20,000 บาท หรือเกินกว่า 20,000 บาทได้ โดยคำนึงถึงความจำเป็นตามฐานะของลูกหนี้ตามคำพิพากษา

( ๒ ) สัตว์ สิ่งของ เครื่องมือ เครื่องใช้ ในการประกอบอาชีพหรือประกอบวิชาชีพเท่าที่จำเป็นในการเลี้ยงชีพของลูกหนี้ตามคำพิพากษา ราคารวมกันโดยประมาณไม่เกิน 100,000 บาท  หรือเกินหนึ่งแสนบาทได้ถ้าแสดงเหตุจำเป็นให้เห็นได้

(๓) สัตว์ สิ่งของ เครื่องใช้ และอุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้ทำหน้าที่ช่วยหรือแทนอวัยวะของลูกหนี้ตามคำพิพากษา ได้รับการยกเว้นให้ทั้งหมด เจ้าหนี้จะยึดหรืออายัดมาไม่ได้เลย  

(๔ ) ทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษาอันมีลักษณะเป็นของส่วนตัวโดยแท้ เช่น หนังสือสำหรับวงศ์ตระกูลโดยเฉพาะ จดหมาย หรือสมุดบัญชีต่างๆ จะยึดหรืออายัดไม่ได้เลย

( ๕ ) ทรัพย์สินอย่างใดที่โอนกันไม่ได้ตามกฎหมาย หรือตามกฎหมายย่อมไม่อยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดี เช่น ที่ดินในนิคมสร้างตนเอง ที่ดิน สปก.๔-๐๑  หรือสิทธิการเช่า แม้สิทธิการเช่านั้นจะมีมูลค่าสูงเพียงใดก็ตาม  แต่ถ้าเป็นประเภทให้เช่าช่วงได้ ไม่เฉพาะเจาะจงให้ลูกหนี้เท่านั้น ยึดได้

แต่เงินค่าหุ้นของสมาชิกสหกรณ์ ยึดได้พ้นจากการเป็นสมาชิกแล้ว โดยใช้วิธีการอายัดไว้ก่อน ตามคำพิพากษาฎีกาที่ 7448/ 2550  เมื่อโดนอายัดแล้ว ลูกหนี้จะไปทำการโอนหรือเปลี่ยนแปลงสิทธิที่ได้ถูกอายัดโดยชอบแล้วไม่ได้

บทคุ้มครองลูกหนี้ตามคำพิพากษา ขยายไปถึงสินสมรสที่เป็นของคู่สมรสของลูกหนี้ด้วย ตามมาตรา ๓๐๑ วรรคสี่

ในส่วนของเงินเดิือน เบี้ยเลี้ยง ค่าจ้าง บำเหน็จ บำนาญ เงินก้นถุง หรือเงินอื่น ๆ ที่ไม่สามารถยึด หรืออายัติได้นั้น ได้ระบุไว้ในมาตรา ๓๐๒ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งที่ได้แก้ไขใหม่ พ.ศ.๒๕๖๐ ที่บัญญัติว่า

" ภายใต้บังคับบทบัญญัติแห่งกฎหมายอื่น เงินหรือสิทธิเรียกร้องเป็นเงินของลูกหนี้ตามคำพิพากษาต่อไปนี้ ไม่อยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดี

(๑) เบี้ยเลี้ยงชีพ เงินเดือน หรือเงินรายได้เป็นคราวๆ ไม่เกินเดือนละ 20,000 บาท หรือตามจำนวนที่เห็นสมควร ง่ายๆ คือมนุษย์เงินเดือนเอกชน รายได้ต่ำกว่า 20,000 บาทต่อเดือน ห้ามยึดห้ามอายัติ

(๒) เงินเดือน ค่าจ้าง บำนาญ บำเหน็จ เบี้ยหวัด เงินก้นถุง ของข้าราชการ ลูกจ้างในหน่วยราชการจะยึดไม่ได้เลย ( มนุษย์เงินเดือนภาครัฐ ) แต่ของรัฐวิสาหกิจ มหาลัยในควบคุม ยึดได้...

(๓) เงินเดือน ค่าจ้าง หรือรายได้อื่นๆ ของพนักงาน ลูกจ้าง หรือคนงาน เป็นจำนวนรวมกันไม่เกินเดือนละ 20,000 บาท

( ๔ ) บำเหน็จหรือค่าชดเชยของบุคคลตามข้อ (๓) ได้รับเป็นจำนวนไม่เกิน 300,000 บาท

( ๕ ) เงินฌาปนกิจส่งเคราะห์ที่ลูกหนี้ตามคำพิพากษาได้รับอันเนื่องจากความตายของบุคคลอื่นเป็นจำนวนตามที่จำเป็นในการดำเนินการฌาปนกิจศพตามฐานะของผู้ตาย ที่่เหลือเกินสมควรยึดได้

โดยในการบังคับคดี ยึดเงินของลูกหนี้นั้น เจ้าพนักงานบังคับคดีต้องคำนึงถึง ฐานะในทางครอบครัวของลูกหนี้ตามคำพิพากษา และจำนวนบุพการีและผู้สืบสันดาน ลูกหลาน เหลน ซึ่งอยู่ในความอุปการะของลูกหนี้ตามคำพิพากษาด้วย......

ถ้ายึดเงินเดือนแล้ว ลูกหนี้ไม่พอกิน ลูกหนี้ก็สามารถยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอให้ศาลกำหนดจำนวนเงินใหม่ให้ก็ได้ด้วยนะครับ

จากเดิมที่เงินเดือนขั้นต่ำ รายได้ขั้นต่ำต่อเดือนที่ห้ามยึด อายัด คือเดือนละ 15,000 บาท 
แต่เนื่องด้วยสภาพสังคม สภาพเศรษฐกิจที่เปลี่ยนไป จึงขยายวงเงินเป็น 20,000 บาท สรุปคือลูกหนี้มีเงินเพิ่มขึ้น 5,000  บาท ครับ...

กฎหมายบังคับคดีใหม่ ที่ออกมาก็คงเป็นประโยชน์กับลูกหนี้อยู่บ้างนะครับ

แม้ส่วนใหญ่จะเเก้ไขเพื่่ิอให้การบังคับคดีสะดวกรวดเร็วขึ้นก็ตาม 

กฎหมายบังคับคดีใหม่ มีผลบังคับใช้ 4 กันยายน 2560 ครับ

ดูรายละเอียดกฎหมายบังคับคดีใหม่ได้ที่นี้ครับ 


แล้วพบกันใหม่ที่บทความต่อไปครับ

อย่าลืมกดไลค์ กดแชร์ ติดตามเพจด้วยนะครับ



กฎหมายเพื่อความสุข เนรมิตชีวิตที่ดีกว่า

ทนายธีรวัฒน์  นามวิชา ทนายศรีสะเกษ


วันเสาร์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

หนี้กยศ. โดน กยศ ฟ้องทำไง ทางออกหนี้ กยศ.การนับอายุความ กยศ.

โดน ก ย ศ ฟ้องทำไงดี ครับ



คดี ก.ย.ศ. คดีเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา จัดเป็นคดีแพ่ง ไม่ใช่คดีอาญา ดังนั้นโดน ก ย ศ. ฟ้อง
ก็ไม่ต้องกังวลนะครับว่าจะติดคุก  ส่วนมากคดีที่ กยศ.จะนำมาฟ้อง คือ หนี้เงินกู้ยืม ที่ไม่มีการชำระหนี้คืน กยศ. 2 ปี ติดต่อกัน...กยศ. จึงจะส่งคดีให้สำนักงานทนายความเป็นคนฟ้องร้องคดีต่อศาลต่อไป

ทางออกหนี้ กยศ เมื่อโดนฟ้อง

1. ติดต่อ ไกล่เกลี่ย เพื่อขอทำสัญญาประนีประยอมความ เพื่อผ่อนชำระหนี้ กยศ.

2. ติดต่อ ไกล่เกลี่ย รับส่วนลด เพื่อปิดยอด กยศ.

3. สู้คดี กยศ.

4. อยู่เฉยๆ ก็คดีแพ่ง ไม่ติดคุก ประเภทไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย...

เมื่อโดน กยศ. ฟ้อง ควรทำยังไงดี

คดี กยศ. เป็นคดีผู้บริโภค ดังนั้น กยศ. จะฟ้องที่ศาลที่ผู้กู้เงิน กยศ.มีภูมิลำเนาอยู่
ก่อนฟ้อง ประมาณ ๑ เดือน เพราะทางทนายความจะต้องไปคัดทะเบียนราษฎร ของคนกู้ คนค้ำประกันหนี้ dกยศ. ก่อนฟ้องเพื่อส่งหมายให้คนกู้หนี้กยศ ( จำเลย ) ประมาณ ๑ เดือนก่อนฟ้อง

เมื่อได้รับหมายศาลและสำเนาคำฟ้องคดีกยศ. แล้ว ควรดำเนินการดังต่อไปนี้


  1. ตรวจสอบว่าเราได้กู้เงินยืมเรียน กยศ. จริงหรือเปล่า ยอดที่ฟ้องมาถูกต้องหรือเปล่า ?
  2. ตรวจสอบว่าต้องไปขึ้นศาลไหน ? ต้องไปศาลวันไหน เวลาไหน ?
  3. คนกู้หนี้ กยศ. คนค้ำประกัน จะเดินทางไปศาลเอง หรือจะมอบอำนาจให้คนอื่นไปแทน ถ้าจะมอบอำนาจให้คนอื่นไปแทน ก็เซ็นต์เอกสารใบมอบอำนาจ แนบสำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้านของคนมอบอำนาจ และคนมอบอำนาจให้เรียบร้อย พร้อมติดเเสตมป์ 10 บาท
  4. เดินทางไปศาลก่อนเวลา เพื่อรับบัตรคิว รับฟังบรรยาย เงื่อนไขการชำระหนี้
  5. ทำสัญญาประนีประนอมยอมความ พบผู้พิพากษา รับสัญญายอมกลับบ้านได้

คำแนะนำของศาลเมื่อโดน กยศ.ฟ้อง


ตัวอย่างใบมอบอำนาจให้ไปศาล เพื่อดำเนินคดีแทน 
โดยสามารถมอบอำนาจได้ทั้งผู้กู้ และผู้ค้ำประกัน โดยส่วนมากจะแนบไปพร้อมกับคำฟ้องของศาลอยู่แล้ว

เงื่อนไข การผ่อนชำระหนี้ กยศ. หนี้ กรอ.  

1. ถ้าปิดยอดหนี้ ส่วนมากก็จะได้ส่วนลดของเบี้ยปรับ และอาจได้ลดส่วนของดอกเบี้ย 
ด้วยอยู่ที่การต่อรอง ตามนโยบายรัฐบาลในแต่ละยุคสมัย

2.ขอผ่อนชำระหนี้ กยศ. ส่วนมากเงื่อนไขระยะเวลาที่ได้รับในการผ่อนชำระสุงสุดคือ 9 ปี
เงื่อนไข ยอดผ่อนชำระหนี้ กยศ. ก็ประมาณยอดที่ลงให้ดูครับ



คดี กยศ.มีอายุความกีปี อายุความคดี กยศ. 10 ปี

การนับอายุความคดี กยศ. นั้น มีอายุความ 10 ปี ตามคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 16051/2555 คดีกยศ. ตามระเบียบของคณะกรรมการ ตามสัญญากู้เงิน กยศ. มีระยะเวลาปลอดหนี้จำนวน 2 ปี อายุความคดี กยศ.เริ่มนับถัดจากวันครบกำหนดปลอดหนี้ คือเป็นวันที่ กยศ. มีสิทธิอาจบังคับสิทธิเรียกร้องได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 193/12 และศาลฎีีกาได้โปรดวินิจฉัยเรื่องอายุความคดีกยศ. ไว้ว่า เงินกู้ยืม กยศ. เป็นเรื่องที่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ หรือกฎหมายอื่นมิได้บัญญัติอายุความไว้โดยเฉพาะ จึงมีกำหนด 10 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 193/30 หาใช่เป็นสิทธิเรียกร้องในเงินที่ต้องชำระเพื่อผ่อนทุนคืนเป็นงวดๆ อันมีอายุความ 5 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 193/33 (2) ไม่ เพราะแม้ผู้กู้เงิน กยศ.สามารถเลือกผ่อนชำระหนี้เป็นรายเดือนหรือรายปีได้ แต่หากมีความจำเป็นอาจร้องขอผ่อนผันการชำระหนี้ตามระยะเวลาที่แตกต่างไปหรือชะลอการชำระหนี้เป็นการชั่วคราวได้...  

ส่วนถ้าถามว่า จะสู้คดี กยศ.ยังไง ให้ชนะ ทนายขอไม่ออกความเห็นนะครับ เพราะเป็นหนี้กู้ยืมเพื่อการศึกษา เพื่อให้โอกาส พัฒนาชีวิตของผู้กู้เอง ดอกเบี้ยก็เพียงร้อยละ 1 ต่อปีเท่านั้น 

ดังนั้น เป็นหนี้ กยศ. ควรชดใช้ครับ...เพื่อส่งต่อโอกาสให้รุ่นน้องต่อไปครับ

กฎหมายเพื่อความสุข


ปล.อย่าลืม กดไลค์ กดแชร์ กดติดตามนะครับผม



เปลี่ยนท่อใหม่ ท่อซิ่ง ท่อแต่ง ไม่ถือเป็นการดัดแปลงสภาพรถนะครับ

เปลี่ยนท่อใหม่ แล้วโดนข้อหาดัดแปลงสภาพรถ ดัดแปลงท่อไอเสีย

การเปลี่ยนท่อไอเสียใหม่ จะเปลี่ยนเป็นท่อซิ่ง ท่อแต่ง 
ท่อไม่มี มอก. จะผิดกฎหมายจราจรหรือไม่นั้น ??



ข้อหาดัดแปลงสภาพรถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์ 

เป็นความผิดตาม พ.ร.บ. รถยนต์ พ.ศ.๒๕๒๒ มาตรา 14  บัญญัติว่า " รถใดที่จดทะเบียนแล้ว ห้ามมิให้ผู้ใดเปลี่ยนแปลงตัวรถหรือส่วนใดส่วนหนึ่งของรถให้ผิดไปจากรายการที่จดทะเบียนไว้และใช้รถนั้น เว้นแต่เจ้าของรถนำรถไปให้นายทะเบียนตรวจสภาพก่อน ..."

ดังนั้น มาตรา 14 ข้อหาดัดแปลงสภาพรถให้ผิดไปจากรายการที่่จดทะเบียนไว้และใช้รถนั้น ต้องเป็นการเปลี่ยนแปลงตัวรถหรือส่วนใดส่วนหนึ่งของรถ ที่มีการจดทะเบียนไว้ เช่น การเปลี่ยนสีรถ การเปลี่ยนเครืองยนต์รถ ประเภทรถ ลักษณะรถ ชนิดเชื้อเพลิงรถ เป็นต้น เจ้าของรถยนต์ หรือรถมอเตอร์ไซค์ จึงจะต้องนำรถไปให้นายทะเบียนสภาพก่อนจึงนำรถไปใช้ได้

ส่วนท่อไอเสียรถยนต์หรือรถมอเตอร์ไซค์นั้น  จัดเป็นส่วนควบและเครื่องอุปกรณ์สำหรับรถที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวง พ.ศ.๒๕๕๑ แต่ท่อไอเสียรถมิได้เป็นรายการที่จดทะเบียนไว้

ดังนั้น การเปลี่ยนท่อไอเสียรถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์ เป็นท่อซิ่ง ท่อแต่ง ก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้ โดยไม่ต้องขออนุญาตต่อนายทะเบียนแต่อย่างใด แต่ทั้งนี้ต้่องมีระดับเสียงดังไม่เกินเกณฑ์ที่ทางการกำหนด คือดังไม่เกิน 95 dB และต้องติดตั้งท่อไอเสียไว้อย่างมั่นคง แข็งแรง ปลอดภัยสำหรับการใช้งานและไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้อื่น...เท่านั้นเป็นใช้ได้

ข้อหาดัดแปลงสภาพรถ มาตรา 14 เสียค่าปรับเท่าใด

ตามมาตรา ๖๐ พ ร บ.รถยนต์ กำหนดว่า " ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฎิบัติตามมาตรา ๑๔ มาตรา....ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองพันบาท

ดังนั้น อย่าแปลงใจที่เจ้าพนักงานตำรวจชอบตั้งข้อหาดัดแปลงสภาพรถ ดัดแปลงท่อไอเสีย เพราะเสียค่าปรับไม่เกิน 2,000 บาท

เปลี่ยนท่อรถยนต์ ท่อมอเตอไซค์ใหม่ มีโอกาสโดนข้อหาอะไรบ้าง ??

1. ข้อหาดัดแปลงท่อไอเสีย ให้ผิดไปจากรายการที่จดทะเบียนไว้และใช้รถนั้น  ตามที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว ท่อไอเสียรถไม่ใช่รายการที่จดทะเบียนไว้ ในใบคู่มือจดทะเบียน ดังนั้นจึงเปลี่ยนได้โดยไม่ต้องแจ้งนายทะเบียนก่อนนำรถมาใช้แต่อย่างใด เปลี่ยนแล้วก็ใช้รถได้เลย เหมือนเปลี่ยนกระจกมองหลังครับ... เปลี่ยนท่อไอเสีย จึงไม่ผิดข้อหาดัดแปลงสภาพรถ...

2.ท่อไม่มี มอก. ผิดกฎหมายหรือไม่ ?  นั้น ตาม พรบ.รถยนต์ ไม่ได้กำหนดว่า ท่อไอเสียรถยนต์ ่รถมอเตอร์ไซค์ที่เปลี่ยนใหม่ต้องใช้ท่อที่มี มอก. เท่านั้น ดังนั้นจึงเปลี่ยนได้ ไม่มีความผิด

และ ตามกฎหมาย พรบ.มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม พ.ศ.๒๕๑๑ นั้น ก็กำหนดให้เฉพาะผู้ผลิต ผู้นำเข้า และผู้จัดจำหน่ายเท่านั้น ที่่ต้องผลิต นำเข้า หรือจำหน่าย ท่อไอเสีย ทีได้มาตรฐาน มอก.

แต่ไม่มีบทบัญญัติใดที่บังคับให้ ผู้บริโภค หรีอเจ้าของรถ ต้องซื้อหรือใช้ท่อไอเสียที่มี มอก.เท่านั้น
ดังนั้นการที่ผู้บริโภคใช้ท่อไอเสีย ที่ไม่มี มอก. จึงไม่ผิดกฎหมาย พรบ.มอก. พ.ศ.๒๕๑๑ แต่อย่างใด



3. เปลี่ยนท่อไอเสียใหม่ แล้วท่อดัง

ตาม พรบ.จราจรทางบก พ.ศ.๒๕๒๒ มาตรา 10 ทวิ " ห้ามมิให้ผู้ใดนำรถที่เครื่องยนต์ก่อให้เกิดก๊าซ ฝุ่น ควัน ละอองเคมี หรือเสียงเกินเกณฑ์ที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติกำหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา มาใช้ในทางเดินรถ..."

และตามมาตรา ๑๕๒ พรบ.จราจรทางบก กำหนดโทษไว้ว่า " ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๑๐ ทวิ...มาตรา ฯลฯ..ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท "

การวัดเสียงดังรถนั้น ต้องปฎิบัติตามเงื่อนไข หลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนดไว้ ไม่ใช่ใช้การคาดเดาของพนักงานตำรวจนะครับ...

ตามประกาศกรมการขนส่งทางบก เรื่อง กำหนดระดับเสียงและวิธิการตรวจวัดระดับเสียงของรถยนต ์ และประกาศกรมการขนส่งทางบก เรื่อง กำหนดระดับเสียงและวิธีการตรวจวัดระดับเสียงของรถจักรยานยนต์
 ซึ่งกำหนดเสียงให้ดังไม่เกิน 95 dB"""

4.เปลี่ยนท่อไอเสียใหม่ แล้วรถเสียงดังอื้ออึง


คุณตำรวจจะออกใบสั่งข้อหา ดัดแปลงสภาพรถ เสียค่าปรับ 2,000 บาท ข้อหาใช้ท่อ ไม่มี มอก. ก็ออกไม่ได้ เพราะคนขับรถรู้ทันแล้ว ว่าไม่ผิด คุณตำรวจเลยมา แผน 2  "กรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท"

เปลี่ยนท่อใหม่แล้ว " ทำให้รถมีเสียงอื้ออึง " ข้อหานำรถที่มีเสียงอื้ออึงมาใช้  ตาม พรบ.จราจรทางบก มาตรา 9 ที่บัญญัติว่า " ห้ามมิให้ผู้ใดนำรถที่เกิดเสียงอื้ออึงหรือมีสิ่งลากถูไปบนทางเดินรถมาใช้ในทางเดินรถ"

และตามมาตรา ๑๔๘ กำหนดโทษไว้ " ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฎิบัติตามมาตรา 9 มาตรา....ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 500 บาท "

คุณตำรวจ จะตีความว่า เสียงอื้ออึง " คือเสียงผิดไปจากท่อเดิม เสียงผิดแปลก " ไม่ได้นะครับ

เพราะแม้ตาม พรบ.จราจรทางบก จะไม่ได้กำหนดคำนิยามของคำว่า "เสียงอื้ออึง" ว่าแปลว่าอะไร
คุณตำรวจจึงต้องไปเปิดพจนานุกรมฉบับราชบัญฑิตยสถาน ว่าอื้ออึง แปลว่า "เสียงดังสนั่น ดังลั่นเอิกเกริก"

ข้อหาใช้รถเสียงอื้ออึง จึงใช้สำหรับรถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์ ที่เปิดรถเสียงดัง สตาร์ทรถ เบิ้ลรถเสียงดัง เป็นที่น่ารำคาญ รบกวนความสงบสุขของประชาชน

แต่จะใช้ข้อหา " ใช้รถที่มีเสียงอื้ออึง เพราะเปลี่ยนท่อไอเสียไม่ได้" นะครับ

ดังนั้น การเปลี่ยนท่อใหม่ เป็นท่อซิ่ง ท่อสูตร ท่อเเต่ง ท่อไม่มี มอก. 
ก็ไม่เป็นการดัดแปลงสภาพรถที่ต้องไปจดแจ้งต่อนายทะเบียน ตาม มาตรา 14 พรบ.ยานยนต์
แต่อย่างใด จึงไม่เป็นความผิดข้อหาดัดแปลงสภาพรถมอเตอร์ไซค์ ดัดแปลงสภาพรถยนต์ ดัดแปลงท่อไอเสีย และไม่ผิดกฎหมายข้อหาอื่น ๆ ถ้าเสียงท่อไอเสีย ดังไม่เกินที่กฎหมายกำหนด ไม่มีควัน ไม่เกินกฎหมายกำหนด และมีการติดตั้งอย่างมั่นคง แข็งแรงปลอดภัย...

ดูบทความที่เกี่ยวข้องได้ที่นี้

การวัดเสียงดังรถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์ 


แล้วพบกันใหม่ที่บทความต่อไปนะครับ

อย่าลืมกดไลค์ กดแชร์ นะครับ

กฎหมายเพื่อความสุข