วันจันทร์ที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2561

ฟ้องได้ กู้ยืมเงินผ่านไลน์ ผ่านเฟสบุ๊ค แล้วไม่คืน แม้ไม่มีสัญญา

ยืมเงินแล้วไม่คืน ไม่มีสัญญา เสียทั้งเพื่อน เสียทั้งเงิน




ปัญหาของการให้เพื่อน คนรู้จักกัน กู้ยืมเงินคือ ความไว้วางใจ เลยไม่มีการทำสัญญากู้ยืมกันไว้

ทำให้เวลาเกิดปัญหา ยืมเงินแล้วไม่ยอมใช้คืน ไม่มีสัญญา ฟ้องร้องก็ไม่ได้

เพราะกฎหมายการกู้ยืมเงิน ได้วางกติกาไว้ว่า " การกู้ยืมเงินเกินกว่า ๒,๐๐๐ บาทขึ้นไป กฎหมายกำหนดให้มีหลักฐานเป็นหนังสืออย่างใดอย่างหนึ่งลงลายมือชื่อผู้ยืมเป็นสำคัญ จึงจะฟ้องร้องได้ " ตามมาตรา ๖๕๓

สรุป กฎหมายกู้ยืมเงิน ตามมาตรา ๖๕๓

๑. ถ้ากู้เงินไม่เกิน ๒,๐๐๐ บาท สามารถฟ้องร้องได้ โดยไม่ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ

๒. ถ้ากู้ยืมเงินเกิน ๒,๐๐๐ บาทขึ้นไป ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ จึงจะฟ้องร้องบังคับคดีได้ 
จึงจะสามารถฟ้องร้องได้นะครับ

ซึ่งหลักฐานเป็นหนังสือ จะทำขึ้นก่อนหรือหลังจากการกู้ยืมเงินไปแล้วก็ได้นะครับ...

มันเป็นเทคนิคที่สามารถให้ลูกหนี้จัดทำขึ้นมาได้โดยไม่ได้ตั้งใจ 
เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการฟ้องคดีกู้ยืมเงินต่อไปได้....

ดังนั้นแต่เดิม การกู้ยืมกัน ถ้าไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อผู้กู้ยืมเงินไว้ ก็ฟ้องไม่ได้ครับ

แต่ต่อมา ได้มี พรบ.ว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ.๒๕๔๔

ที่ถือว่าการแซทกู้ยืมเงินกันทางเฟสบุ๊ค ทางไลน์ เป็นการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์

และมีการให้คำนิยามคำว่า " ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ " และตามมาตรา ๗ และมาตรา ๘ ให้ถือว่าข้อความที่มีการแชทกัน ได้ทำเป็นหนังสือ มีหลักฐานเป็นหนังสือหรือมีเอกสารมาแสดงแล้ว...

และตามมาตรา ๙ ถ้าต้องลงลายมือชื่อในหนังสือ ให้ถือว่ามีการลงลายมือชื่อเเล้วเมื่อสามารถยื่นยันว่าสามารถระบุได้ว่าบุคคลในเฟส ในไลน์ดังกล่าว เป็นบุคคลคนเดียวกันกับคนที่กู้ยืมเงินไป...

ดังนั้นตาม พรบ.ว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ.๒๕๔๔
การแซท กู้ยืมเงินกันทางไลน์ ทางเฟสบุ๊ค จึงถือว่ามีหลักฐานเป็นหนังสือ ลงลายมือชื่อผู้กู้ยืมเงินแล้ว

จึงสามารถฟ้องร้องบังคับคดีได้ตามกฎหมายครับ

แล้วพบกันใหม่ที่บทความต่อไปครับ

กฎหมายเพื่อความสุข

ทนายธีรวัฒน์ นามวิชา