วันพฤหัสบดีที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2560

ตำรวจดึงกุญแจรถไปผิดไหม เมื่อกฎหมายจราจรไม่ได้ให้อำนาจไว้

ตำรวจดึงกุญแจรถไปผิดแน่ 100 %  
เพราะกฎหมายไม่ได้ให้อำนาจไว้

แต่กฎทุกกฎย่อมมีข้อยกเว้น เพื่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน


สวัสดีครับ กฏหมายเพื่อความสุข เนรมิตชีวิตที่ดีกว่า 
ผมทนายธีรวัฒน์  นามวิชา ทนายความคนศรีสะเกษ

วันก่อนเห็นเพื่อนในเฟสบุ๊ค เเชร์คลิป ตำรวจนอกเครื่องแบบ ตั้งด่านสกัด ขอตรวจปัสสาวะผู้ขับขี่และทางเจ้าพนักงานตำรวจก็มีการดึงกุญแจรถยนต์ ของผู้ขับขี่ไป เพื่อเป็นการบังคับกลายๆ ให้ผู้ขับขี่ไปตรวจปัสสาวะ ถ้าตรวจไม่พบก็จะคืนกุญแจรถยนต์ให้...

ส่วนผู้ขับขี่ก็ปฎิเสธไม่ยอมให้ตรวจปัสสาวะ เนื่องจากเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบ ถามชื่อยศ เจ้าพนักงานตำรวจก็ไม่ยอมแจ้ง อ้างว่าเป็นความลับ...และบอกเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าเป็นด่านไม่ชอบ ด่านเถือน เจ้าพนักงานตำรวจก็บอกว่าเป็นการตั้งด่านสกัด สามารถทำได้....

คำถามคือ กรณีดังกล่าว

1.เจ้าพนักงานตำรวจ ตั้งด่าน จุดสกัดถูกต้องตามกฎหมาย ตามระเบียบ คำสั่ง ผบ.ตร.
ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาหรือเปล่า ???

2.เจ้าพนักงานตำรวจมีอำนาจ " ดึงกุญแจรถยนต์ของประชาชนไปได้หรือเปล่า ? "

กฏหมายเพื่อความสุข ขอตอบว่า

1.เป็นการตั้งด่านที่ชอบด้วยกฎหมายหรือเปล่า ??
ตามหนังสือสังการของ ผบ.ตร. ที่ ๐๐๐๗.๓๔/๕๕๗๘ ่ลงวันที่ ๑๓ ธันวาคม ๒๕๕๖  เรื่อง การกำชับมาตรการปฏิบัติเกี่ยวกับการตั่งด่านตรวจ จุดตรวจ และจุดสกัด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและภาพลักษณ์ที่ดีในการบังคับใช้กฎหมายให้เกิดขึ้นแก่ประชาชนทั่วไปและผู้ใช้รถใช้ถนน และเพื่อป้องกันไม่ให้ภาพลักษณ์ของ ตำรวจ โดยรวมเสื่อมเสีย

โดยตามคำสั่งดังกล่าว จุดสกัด หมายถึง "สถานที่ที่เจ้าพนักงานตำรวจออกปฎิบัติหน้าที่ตรวจค้น เพื่อจับกุุมผู้กระทำความผิดในเขตทางเดินรถหรือทางหลวง ในกรณีที่มีเหตุุการณ์ฉุกเฉิน หรือจำเป็นเร่งด่วนเกิดขึ้น เป็นการชั่วคราวและจะต้องยุบเลิกเมื่อเสร็จสิ้นภารกิจดังกล่าว"

การตั้งจุดสกัด จะตั้งได้เฉพาะกรณีที่มีเหตุการณ์ฉุกเฉิน หรือจำเป็นเร่งด่วนเกิดขึ้น และจะต้องได้รับอนุมัติจากผู้บังคับบัญชาตั้งแต่ระดับหัวหน้าสถานีตำรวจหรือผู้รักษาการณ์แทนขึ้นไปโดยมีกำหนดระยะเวลาเท่าที่มีเหตุการณ์ฉุกเฉินหรือจำเป็นเร่งด่วนดังกล่าวยังคงมีอยู่เท่านั้น

่การปฏิบัติหน้าที่ ณ ด่านตรวจ จุดตรวจ หรือจุดสกัด จะต้องมีนายตำรวจชั้นสัญญาบัตรระดับตั้งแต่รองสารวัตรขึ้นไปเป็นหัวหน้า และจะต้องเเต่งเครื่องแบบในการปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าว

การปฎิบัติการในการตรวจค้น จับกุม ต้องปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาและประมวลระเบียบการตำรวจเกี่ยวกับคดี ว่าด้วยการนั้นโดยเคร่งครัด

มาตรการป้องกันการเรียกรับผลประโยชน์ พฤติการณ์ส่อไปในทางทุจริต และสร้างความเดือดร้อนแ่ก่ประชาชน นั้นตามระเบียบดังกล่าว

การตั้งจุดตรวจ จุดสกัด ต้องเป็นไปตามหลักปฏิบัติโดยเคร่งครัด เมื่อไม่มีการตั้งจุุดตรวจ จุดสกัด ห้ามมิให้เจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ใดหยุดรถเพื่อทำการตรวจ เว้นแต่พบความผิดซึ่งหน้าและต้องไม่เป็นไปในลักษณะการซุ่มจับอย่างเด็ดขาด

บทลงโทษสำหรับตำรวจที่ไม่ทำตามคำสั่ง ( นอกรีต ตำรวจไม่ดี ๐.๐๑% ) ก็มีทั้งโทษทั้งทางวินัยและอาญา ส่วนหัวหน้าผู้บังคับบัญชาของตำรวจที่กระทำผิดดังกล่าว ก็จะโดนโทษฐานบกพร่องละเลยไม่เอาใจใส่ดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาของตน

จากคำสั่งดังกล่าว จึงถือว่าด่านสกัดตามคลิปนั้น เป็นด่านเถือน ด่านลอย เนื่องจากไม่มีเหตุการณ์ฉุกเฉินจำเป็น เร่งด่วน ไม่มีเจ้าพนักงานในเครื่องแบบ

ดังนั้นเมื่อเป็นด่านเถื่อน จุดสกัดเถือน จุดสกัดไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงไม่มีอำนาจสั่งให้ผู้ใดหยุดรถเพื่อทำการตรวจค้นได้ เว้นแต่ความผิดซึ่งหน้า ประชาชนสามารถปฏิเสธไม่ทำตามคำสั่งของเจ้าพนักงานตำรวจได้ครับ

สรุป กรณีตามคลิป เจ้าพนักงานตำรวจไม่มีอำนาจสั่งหยุดรถ เพื่อขอตรวจค้น ขอตรวจปัสสาวะได้

2.ถ้าเป็นจุดตรวจ จุดสกัด ที่ถูกกฎหมาย เจ้าพนักงานตำรวจมีอำนาจ " ดึงกุญแจรถยนต์ของประชาชนไปได้หรือเปล่า ? "
นั้นตามพรบ.จราจรทางบก ฯ นั้นให้อำนาจ เจ้าพนักงานจราจร มีอำนาจว่ากล่าวตักเตือน ออกใบสั่งให้ผู้ขับขี่ชำระค่าปรับตามที่เปรียบเทียบได้ ในการออกใบสั่งให้ผู้ขับขี่ชำระค่าปรับตามที่เปรียบเทียบปรับ หรือจะเรียกเก็บใบขับขี่ไว้เป็นการชั่วคราวก็ได้ แต่ต้องออกใบแทนใบอนุญาตขับขี่ให้แก่ผู้ขับขี่ต้องรีบนำใบอนุญาตขับขี่ที่เรียกเก็บไว้ส่งมอบให้พนักงานสอบสวนภายใน 8 ชั่วโมง นับแต่วันที่ออกใบสั่ง ใบรับแทนใบอนุญาตขับขี่ ใช้แทนใบอนุญาตขับขี่ได้เป็นการชั่วคราวไม่เกิน 7 วัน

แต่ตามพรบ.จราจรฯพรบ.รถยนต์ฯ พรบ.การขนส่งฯไม่ได้ให้อำนาจตำรวจดึงกุญแจรถไปได้


่ดังนั้น การชักกุญแจ หรือ ดึงกุญแจรถ ยึดกุญแจรถ ไม่มีกฎหมายให้อำนาจเจ้าพนักงานจราจรหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ที่จะสามารถทำการยึดกุญแจรถนั้นได้ การเอากุญแจรถไปจึงผิด เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบด้วยกฎหมายเพื่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้หนึ่งผู้ใดหรือประชาชนตาม ป.อ. มาตรา ๑๕๗ แล้ว
 เว้นแต่ มีพฤติการหลบหนี พยายามจะหลบหนีหรือ หลบหนีมาแล้ว การชักกุญแจ หรือ ดึงกุญแจ การยิงสกัด จึงเป็นการป้องกันเหตุ ป้องกันการหลบหนี ซึ่งสามารถกระทำได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๘๓ วรรคสาม ว่าด้วยการจับ กุม

สรุป ถ้าเป็นจุดตรวจ จุดสกัดที่ชอบด้วยกฎหมาย ตำรวจสามาถดึง
กุญแจรถไปได้ ถ้าผู้ขับขี่มีพฤติการณ์ที่จะหลบหนี หรือพยายามจะหลบหนีหรือหลบหนีไปแล้วตำรวจตามจับ ถ้าไม่หนี ก็ดึงไปไม่ได้นะครับผม..

อย่าลืมกดไลค์ กฎแชร์ แบ่งปันให้เพื่อนๆ นะครับผม

กฎหมายเพื่อความสุข เนรมิตชีวิตที่ดีกว่าเพื่อชาวบ้าน

ทนายธีรวัฒน์  นามวิชา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น